วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556

ภูมิปัญญาไทยสู่เศรษฐกิจพอเพียง

ภูมิปัญญาไทยผันสู่เศรษฐกิจพอเพียง

สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จัดนิทรรศการ และประชุมวิชาการ ภูมิปัญญาไทย ผันสู่เศรษฐกิจพอเพียง

     ภาครัฐ เอกชน กลุ่มพลังประชาชน เตรียมงานประชุมวิชาการและนิทรรศการ ภูมิปัญญาไทย ผันสู่เศรษฐกิจพอเพียงในส่วนเครือข่ายเศรษฐกิจพอเพียง งานทรัพยากรไทย ผันสู่วิถีใหม่ในฐานไทย สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ศรีราชา ชลบุรี พบเฒ่าวัย 68 ปี สีสันภูมิปัญญาไทย ใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง
      จากกรณีที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จัดประชุมวิอชาการและนิทรรศการ ภูมิปัญญาไทย ผันสู่เศรษฐกิจพอเพียงภายใต้การจัดประชุมวิชการและนิทรรศการทรัพยากรไทย ผันสู่วิถีใหม่ในฐานไทย ระหว่างวันที่ 19 ตุลาคม 2552 ถึงวันที่ 25 ตุลาคม 2552 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ เป็นการเทิดพระเกียรติ และให้เยาวชนนักวิชาการ ภาคเอกชนและผู้กำหนดนโยบาย ได้เห็นความหลากหลายแห่งศักยภาพของทรัพยากรไทย ได้เข้ามาเรียนรู้ธรรมชาติแห่งชีวิต สรรพสิ่งล้วนพันเกี่ยว การอนุรักษ์ พัฒนาและใช้ประโยชน์ทรัพยากรอย่างยั่งยืน อันเป็นประโยชน์แท้แก่มหาชนไทย นำไปสู่ การผันสู่วิถีใหม่ ในฐานไทย
      ซึ่งในการจัดงานดังกล่าว ได้มีการจัดนิทรรศการเครือข่าย 4 ภาค มีภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ และฐานการเรียนรู้ เศรษฐกิจพอเพียง  เช่น ฐานคนรักป่า คนรักสุขภาพ คนมีไฟ คนรักแม่ธรณี คนรักทุ่ง คนมีน้ำยา คนเอาถ่าน คนติดดิน คนรักน้ำ มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ราคาถูก ซึ่งเป็นสินค้าภูมิปัญญาชาวบ้านที่ผ่านการอนุรักษ์และพัฒนาแล้ว  โดยในวันที่ 19 ตุลาคม 2552  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี  เสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการ วันที่ 20 ตุลาคม เปิดประชุมวิชาการ เรื่อง วิกฤตมนุษยชาติและทางออก วิถีใหม่ในฐานไทย ความมั่นคงของทรัพยากร
     สำหรับการประชุมวิชาการ ได้มีการกำหนดการประชุมเรื่องการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชภายใต้อนุสัญญาความหลากหลายทางชีวภาพ และสนธิสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยพันธุกรรมพืชเพื่ออาหาร และการเกษตร ความหลากหลายของพันธุ์พืชพื้นเมืองกับการอนุรักษ์และการนำไปใช้ประโยชน์  หญ้าแฝกพืชมหัศจรรย์คุ้มครองแผ่นดิน การฟื้นฟูและอนุรักษ์ทะเลไทย  ชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง ทางรอดในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจปัจจุบัน การเกษตรกู้วิกฤตเศรษฐกิจไทยความมั่นคงทางอาหาร และธนาคารต้นไม้ อนาคต ความหวัง การฟื้นฟูชาติ เรื่องสุดท้ายคือ ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ความมั่นคงของแผ่นดิน
     ส่วนบรรยากาศในบริเวณสถานที่จัดงานได้พบ นายไม้ร่ม ธรรมชาติอโศก อายุ 68 ปี ได้เดินทางเข้ามาร่วมงานนิทรรศการ ณ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว โดยใช้ตัวเองเป็นพีเซ็นเตอร์ ในการชักชวน ปลูกจิตให้ประชาชนหันมาดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงให้มากที่สุด เข้ามาเรียนรู้ธรรมชาติแห่งชีวิต สรรพสิ่งล้วนพันเกี่ยว และได้พบว่าศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เป็นหน่วยทหารหน่วยเดียวที่ได้รับเชิญมาร่วมแสดงนิทรรศการในงานนี้ ซึ่งทางด้าน นาวาเอก วิรัตน์ สมจิตร รองผู้บังคับการ ศูนย์ฝึกทหารใหม่ และประธานคณะกรรมการศูนย์การเรียนรู้ ศูนย์ฝึกทหารใหม่ เปิดเผยว่า นับเป็นความภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการเผยแพร่ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะศูนย์การเรียนรู้ เป็นแหล่งศึกษา เรียนรู้ สร้างสมประสบการณ์ เกี่ยวกับการใช้ชีวิตแบบพอเพียง และเป็นแหล่งศึกษาของทหารใหม่ ข้าราชการ ครอบครัว ประชาชนทั่วไปอีกด้วย
ที่มา :   http://www.buraphanews.com/index.php?option=com_content&task=view&id=2448&Itemid=2

การนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา 
    เศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy) เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศ   ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมีหลักพิจารณา ๕ ส่วน คือ
๑.  กรอบแนวคิด ที่ชี้แนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนในทางที่ควร โดยมีพื้นฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย  
๒.  คุณลักษณะเศรษฐกิจพอเพียงสามารถประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ทุกระดับ  โดยเน้นทางสายกลางและการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน   ๓.  คำนิยาม ความพอเพียง (Sufficiency) จะต้องประกอบด้วย ๓ คุณลักษณะ ดังนี้
        ๑) ความพอประมาณ  หมายถึง  ความพอดี ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป
        ๒) ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจ อย่างมีเหตุผล
        ๓) การมีภูมิคุ้มกันในตัว หมายถึง    การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลง  
       ๔) เงื่อนไข ๒ เงื่อนไข คือ เงื่อนไขความรู้ และเงื่อนไขคุณธรรม (แนวคิด ๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข)     
๑) เงื่อนไขความรู้ คือ ความรู้เกี่ยวกับวิชาการ เพื่อนำมาประกอบการวางแผน      
๒) เงื่อนไขคุณธรรม    เพื่อเสริมสร้างให้มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์  
        ๕) แนวทางปฏิบัติ ผลที่คาดว่าจะได้รับ เพื่อการพัฒนาที่สมดุล   ทั้งด้านเศรษฐกิจ    สังคม สิ่งแวดล้อม และความรู้เทคโนโลยีกระบวนการสร้างความรู้ (Knowledge)  คุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในเอกสารประกอบการอบรมเรื่องการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว) ได้ให้ข้อแนะนำในการจัดการเรียนรู้ ดังนี้
        ด้านเศรษฐกิจ  
 ๑. รู้จักควบคุมใช้จ่ายของตนเอง  ใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล, ใช้จ่ายพอประมาณ ใช้จ่ายอย่างประหยัด ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น ฯลฯ   
๒.รู้จักออมเงิน เรียนรู้ระบบการฝากเงิน เรียนรู้ระบบออมเงิน เรียนรู้ระบบสหกรณ์  
 ๓. รู้จักสร้างรายได้หรืออาชีพ สร้างรายได้หรืออาชีพสอดคล้องกับความต้องการ สอดคล้องกับสังคม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ทรัพยากรท้องถิ่น ฯลฯ   
ด้านสังคม  รู้จักช่วยเหลือสังคมหรือชุมชน ปลุกจิตสำนึกสาธารณะ  ปลูกฝังความสามัคคี ความเสียสละ เผยแพร่องค์ความรู้เศรษฐกิจพอเพียง ฯลฯ
        ด้านสิ่งแวดล้อม  สร้างสมดุลของทรัพยากรธรรมชาติ ปลุกจิตสำนึกรักสิ่งแวดล้อม ฟื้นฟูแหล่งเสื่อมโทรมในท้องถิ่น ดูแลสถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่น ฯลฯ
       ด้านวัฒนธรรม   สืบสานวัฒนธรรมไทย สร้างจิตสำนึกรักษ์ไทย รักบ้านเกิด  ฟื้นฟูและอนุรักษ์อาหารท้องถิ่น ดนตรีไทยและเพลงไทย โบราณสถานและโบราณวัตถุ
      ด้านศาสนา    ส่งเสริมศาสนา ปลูกฝังจิตสำนึกความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ฯลฯ       แนวการจัดการเรียนรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่มสาระ   
     ๑. ภาษาไทย  สามารถแนวแนวปรัชญามาฝึกเขียนเรียงความ, คัดลายมือพระราชดำรัสเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง               
     ๒. คณิตศาสตร์  ฝึกการค้าขาย ฝึกการทำบัญชีรายรับรายจ่ายต่าง ๆ บัญชีต้นทุน กำไร  การออมเงิน   
     ๓. วิทยาศาสตร์  สามารถจัดกิจกรรมเกี่ยวกับความพอเพียงในการใช้ทรัพยากร การสร้างสมดุลของธรรมชาติ           
     ๔. สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม  การช่วยเหลือชุมชน  คุณธรรม ๘ ประการของกระทรวงศึกษาธิการ การสร้างจิตสำนึกในการรักษ์ท้องถิ่น               
     ๕. การงานอาชีพและเทคโนโลยี  การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น  การสร้างจิตสำนึกการใช้เทคโนโลยีอย่างประหยัด การประดิษฐ์สิ่งของ ของเล่นจากเศษวัสดุ นำไปจำหน่าย               
      ๖.ศิลปะ ดนตรี นาฏศิลป์ การสร้างสรรค์งานศิลปะจากเศษวัสดุ               
      ๗. สุขศึกษาและพลศึกษา การสร้างภูมิคุ้มกันในตัวเองด้วยการออกกำลังกาย  การเล่นการละเล่นแบบไทย ๆ                
     ๘. ภาษาต่างประเทศ  การเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับความพอเพียง  การเขียนเรื่องการกล่าวสุนทรพจน์ (Public Speed) เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy)               
       การจัดการเรียนรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงยังสามารถจัดในลักษณะบูรณาการ หรือทำโครงงานในกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ สอดแทรกแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงได้ด้วย      เช่น โครงงานค้าขายได้ความรู้สู่ความพอเพียง  โดยฝึกการค้าขายสินค้าและบันทึกรายรับรายจ่าย ต้นทุนกำไร และบูรณาการ 3 ห่วง 2 เงื่อนไข  
       ปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศ  ซึ่งนักเรียนควรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ที่มา :  http://www.gotoknow.org/posts/159148

ภูมิปัญญาไทยในด้านการประกอบอาชีพ
        ประเทศไทยได้เผชิญสภาวะการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งด้านเศรษฐกิจ  สังคมและการเมือง สิ่งที่น่าจะต้องรีบเร่งดำเนินการอย่างยิ่งก็คือ การปฏิรูปการศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สูงขึ้น โดยเฉพาะผู้บริหารสถานศึกษา ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทหน้าที่สำคัญที่ต้องส่งเสริมและสนับสนุนและเป็นผู้นำในการจัดการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น   ดังนั้นแนวคิดเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนยุคใหม่โดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ  ซึ่งเป็นการปรับปรุงกระบวนการเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง โดยเริ่มจากชีวิตความเป็นอยู่ของตน  ครอบครัว  ชุมชน   ประเทศและโลก ตลอดจนสื่อสมัยใหม่มาช่วยเสริมมากขึ้น  เพื่อสร้างความเข้มแข็งทางปัญญาให้คนไทยในอนาคตข้างหน้า  เป็นบุคคลที่มีทักษะที่จะเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การจัดการและวัฒนธรรม พร้อมทั้งสามารถใช้และรับรู้ข้อมูลข่าวสารจากภายนอกที่หลากหลายได้อย่างกว้างขวาง โดยไม่ละทิ้งภูมิปัญญาและแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น   ฉะนั้นแนวคิดเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนยุคใหม่ จึงมีความสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเทศบาลเมืองสตูล ซึ่งมีนโยบายในการพัฒนาด้านการศึกษา ดังนี้   ส่งเสริมและสนับสนุนให้ใช้หลักศาสนาในการดำรงชีวิตเพื่อสร้างคุณธรรม จริยธรรม  ปรับปรุงสถานศึกษาให้เข้าสู่มาตรฐานของประเทศ  ส่งเสริมการจัดการด้านการศึกษาและกระบวนการเรียนรู้ที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต  เน้นคุณภาพ ประสิทธิภาพและความเที่ยงธรรมในการบริหารจัดการศึกษาพัฒนาระบบสารสนเทศและเทคโนโลยีทางด้านการศึกษานโยบายในการพัฒนาด้านการศึกษาที่ได้กล่าวมา ได้เน้นกระบวนการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อนำไปใช้ในการสร้างและเตรียมทรัพยากรมนุษย์ให้ท้องถิ่นมีคุณภาพที่เหมาะสมและสอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศแบบยั่งยืนตามวิสัยทัศน์ของเทศบาลเมืองสตูล ที่ว่า 
      “สตูลเมืองน่าอยู่ เชิดชูวัฒนธรรม     ก้าวนำการศึกษา ปวงประชาเป็นมิตร เศรษฐกิจรุ่งเรือง ประตูเมืองชายแดน” 
      จากนโยบายและวิสัยทัศน์เทศบาลเมืองสตูล ทางโรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดชนาธิปเฉลิม) ได้ร่วมกันวิเคราะห์และกำหนดเป็นวิสัยทัศน์ของสถานศึกษา ดังนี้
            มีคุณธรรม    มุ่งนำวิชาการ  
      ประสานชุมชน    สร้างคนด้วยกีฬา
สาธารณูปโภคปลอดภัย         ใส่ใจสิ่งแวดล้อม   
พร้อมนำเทคโนโลยี   สู่วิถีเศรษฐกิจพอเพียง
  และจากวิสัยทัศน์ดังกล่าว จึงได้กำหนดพันธกิจไว้ 10 ประการ คือ
      1.  สร้างเสริมคุณธรรม จริยธรรมแก่ผู้เรียน
      2.  พัฒนาครูให้จัดการเรียนการสอน โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
      3.  ส่งเสริมให้ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมทางวิชาการ
      4.  ส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการสอน
      5.  ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน
      6.  ส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้เรียนเล่นกีฬา
      7.  พัฒนาระบบสาธารณูปโภค บริโภคให้ปลอดภัยและถูกหลักอนามัย
      8.  ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีจิตสำนึกอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม
      9.  พัฒนาศักยภาพครูและนักเรียนให้รู้จักใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ
      10. เสริมสร้างองค์ความรู้เศรษฐกิจพอเพียงให้ผู้เรียนนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน 
      วิสัยทัศน์และพันธกิจในด้านการประสานชุมชน โดยส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน ทางโรงเรียนจึงได้ทำการศึกษาและกำหนดภูมิปัญญาท้องถิ่นและแหล่งเรียนรู้ เพื่อให้ครูและนักเรียนได้ใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูลอย่างหลากหลาย 
ภูมิปัญญาท้องถิ่น
      ภูมิปัญญาท้องถิ่น   หมายถึง  ความรู้ประสบการณ์ทั้งหลายของชาวบ้านในท้องถิ่น  ที่ใช้ในการแก้ปัญหาหรือการดำเนินชีวิต  โดยได้รับการถ่ายทอดและกลั่นกรองเป็นระยะเวลานาน  มีลักษณะของการเชื่อมโยงไปในทุกสาขาวิชา อย่างผสมกลมกลืนกัน ไม่แยกเป็นวิชา ๆ  สามารถประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต  เศรษฐกิจ  และสังคมเป็นอย่างดี 
ลักษณะของภูมิปัญญาท้องถิ่นแบ่งออกเป็น  4 ลักษณะ คือ
      1. ประสบการณ์ของชาวบ้านที่นำมาใช้ประโยชน์ในการดำรงชีวิต หมายถึง ความรู้และประสบการณ์ที่ชาวบ้านค้นพบและนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
      2.  ความรู้ความคิดในการสร้างสรรค์แบบแผนการดำเนินชีวิต ที่ปฏิบัติสืบทอดกันมา หมายถึง   สิ่งที่ชาวบ้านถ่ายทอดความรู้หรือความคิดลงไปในวรรณกรรมต่าง ๆ เช่น เพลงพื้นบ้าน การละเล่นต่าง ๆ นิทานพื้นบ้าน ตลอดจนศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมต่างๆ เป็นต้น
      3.  การประกอบอาชีพที่ยึดหลักการพึ่งตนเอง หมายถึง ความรู้และประสบการณ์ที่ชาวบ้านใช้ในการประกอบอาชีพ โดยอาศัยหลักธรรมชาติ ไม่พึ่งพาปัจจัยภายนอก แต่มีการพัฒนาให้เหมาะสมกับกาลสมัย
      4.  การประกอบอาชีพที่เกิดจากการผสมผสานความรู้เดิมกับแนวคิด หลักปฏิบัติและเทคโนโลยีสมัยใหม่ หมายถึง การนำเอาความรู้เดิมของชาวบ้านมาผสมผสานกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ใช้ในการแก้ปัญหาในหมู่บ้านหรือชุมชน เช่น การนวดข้าว การก่อสร้าง เป็นต้น 

ประเภทของภูมิปัญญาท้องถิ่น
      ได้มีการแบ่งลักษณะและประเภทของภูมิปัญญาท้องถิ่น ดังนี้
      1. ภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นเรื่องเกี่ยวกับคติ ความคิด ความเชื่อ และหลักการ ที่เป็นพื้นฐานของความรู้ที่เกิดจากการสั่งสมถ่ายทอดกันมา
        2.  ภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นเรื่องของศิลปะ วัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณี
         3.  ภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นเรื่องของการประกอบอาชีพในแต่ละท้องถิ่นที่ได้รับการพัฒนาให้เหมาะสมกับกาล
         4.  ภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นเรื่องแนวคิด หลักปฏิบัติ และเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ ชาวบ้านนำมาใช้ในชุมชน ซึ่งเป็นอิทธิพลของความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
 ที่มา :  http://www.thaigoodview.com/node/53460

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น